เมนู

มีพระหฤทัยเมตตา มีพระสติ เสด็จขึ้นที่จงกรม เรา
มีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส ชมเชยพระญาณอันอุดม
แล้ว ถือดอกเทียนขาวไปบูชา แด่พระพุทธเจ้า ใน
กัปที่ 31 แต่ภัทรกัปนี้ เราได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วย
ดอกไม้ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้
เป็นผลแห่งพุทธบูชา ในกัปที่ 29 แต่ภัทรกัปนี้ ได้
เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ นามว่า สุเมฆฆนะ สมบูรณ์
ด้วยแก้ว 7 ประการ มีพลมาก เราเผากิเลสทั้งหลาย
แล้ว ฯ ล ฯ คำสอนของพระพุทธเจ้า เราทำสำเร็จ
แล้ว ดังนี้.

ก็แลคาถานี้นั่นแหละ ได้เป็นคาถาพยากรณ์พระอรหัตผลของพระเถระ.
จบอรรถกถารามเณยยเถรคาถา

10. วิมลเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระวิมลเถระ


[187] ได้ยินว่า พระวิมลเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
แผ่นดินชุ่มฉ่ำด้วยน้ำฝน ลมก็พัด สายฟ้าก็แลบ
อยู่ทั่วไปในท้องฟ้า วัตถุทั้งหลาย ย่อมสงบไป จิต
ของเราตั้งมั่นแล้ว เป็นอันดี.

จบวรรคที่ 5

อรรถกถาวิมลเถรคาถา


คาถาของท่านพระวิมลเถระ เริ่มต้นว่า ธรณี จ สิญฺจติ วา.
เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร ?
แม้ท่านก็ได้เป็นผู้มีอธิการอันได้กระทำไว้แล้ว ในพระพุทธเจ้าองค์
ก่อน ๆ สั่งสมกุศลอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพาน ไว้ในภพนั้น ๆ เกิดใน
ตระกูลของคนเป่าสังข์ ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า
วิปัสสี ถึงความเป็นผู้รู้แล้ว สำเร็จการศึกษาในศิลปะนั้น วันหนึ่งพบพระผู้
มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า วิปัสสี มีใจเลื่อมใสแล้ว ทำการบูชาด้วยการ
เป่าสังข์ถวาย จำเดิมแต่นั้น ได้ทำการบำรุงพระศาสดา ตลอดกาลเวลา.
ด้วยบุญกรรมนั้น เขาเกิดในเทวโลก การทำบุญไว้มาก ท่องเที่ยวไปๆ
มา ๆ อยู่ในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ตั้งอธิฐานไว้ในศาสนาของพระผู้มีพระ
ภาคเจ้า พระนามว่า กัสสปะ ว่า ในอนาคตกาล ขอข้าพเจ้าจงเป็นผู้มีร่างกาย
บริสุทธิ์ ปราศจากมลทิน ดังนี้ แล้วรดต้นโพธิ์ด้วยน้ำหอม ซักฟอกอาสนะ
ที่เป็นเจดีย์ และเนินโพธิ ซักสมณบริขารที่เศร้าหมอง แม้ของภิกษุทั้งหลาย.
ก็ครั้น จุติจากมนุษยโลกแล้ว ก็ท่องเที่ยวไป ๆ มา ๆ อยู่ในเทวดา
และมนุษย์ทั้งหลาย บังเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ณ พระนครราชคฤห์ ในพุทธุ-
ปบาทกาลนี้ ก็เมื่อท่านอยู่ในท้องมารดาก็ดี ออกจากท้องมารดาก็ดี ร่างกาย
ของท่านไม่เศร้าหมองด้วยดี และเสมหะเป็นต้น ไม่แปดเปื้อน ดุจหยาดน้ำ
ฝักบัว ได้เป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ดังพระโพธิสัตว์ผู้ประสูติในภพสุดท้าย ด้วย
เหตุนั้น คนทั้งหลายจึงขนานนามท่านว่า วิมละ.